กรุงเทพมหานครได้เปิดตัวโครงการใหม่เพื่อจัดการขยะในเมืองอย่างยั่งยืน โดยมีการใช้แอปพลิเคชัน BKK Waste Pay เพื่อให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “บ้านนี้ไม่เทรวม: ลดขยะลดค่าธรรมเนียม” ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนแยกขยะที่ต้นทาง และมีผลต่อการลดค่าธรรมเนียมการจัดการขยะในเมืองกรุงเทพฯ โดยเริ่มลงทะเบียนล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้

รายละเอียดการลงทะเบียนและอัตราค่าธรรมเนียมใหม่

  1. บ้านพักอาศัยทั่วไป (ที่มีขยะไม่เกิน 20 ลิตร/วัน หรือไม่เกิน 4 กิโลกรัม/วัน)
    • หากไม่แยกขยะ: ค่าธรรมเนียม 60 บาท/เดือน (รวมค่าเก็บขยะ 30 บาทและค่ากำจัดขยะ 30 บาท)
    • หากแยกขยะและลงทะเบียน: ค่าธรรมเนียมลดเหลือ 20 บาท/เดือน (ค่าเก็บขยะ 10 บาทและค่ากำจัดขยะ 10 บาท)
  2. หมู่บ้านจัดสรรหรือชุมชนที่มีปริมาณขยะมากกว่า 20 ลิตร/วัน แต่ไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตร/วัน หรือเกิน 4 กิโลกรัมแต่ไม่เกิน 200 กิโลกรัม/วัน:
    • ค่าธรรมเนียม 120 บาทต่อ 20 ลิตร (ค่าเก็บขยะ 60 บาท และค่ากำจัดขยะ 60 บาท)
  3. หมู่บ้านหรือองค์กรที่มีปริมาณขยะเกิน 1 ลูกบาศก์เมตร/วัน หรือเกิน 200 กิโลกรัม/วัน:
    • ค่าธรรมเนียม 8,000 บาทต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร (ค่าเก็บขยะ 3,250 บาท และค่ากำจัดขยะ 4,750 บาท)
    • การแยกขยะจะช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด ทำให้ค่าธรรมเนียมลดลง

วิธีการลงทะเบียน

การลงทะเบียนแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ:

  1. ลงทะเบียนแบบเดี่ยว
    สำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไปที่มีปริมาณขยะไม่เกิน 20 ลิตร/วัน หรือ 4 กิโลกรัม/วัน โดยเจ้าของบ้านหรือผู้เช่าที่ต้องการเข้าร่วมโครงการสามารถลงทะเบียนได้ผ่านแอปพลิเคชัน BKK Waste Pay หรือสามารถลงทะเบียนที่สำนักงานเขต หากไม่มีสมาร์ทโฟน โดยการลงทะเบียนจะใช้ รหัสบ้าน (House ID) 11 หลัก, ชื่อ-สกุล, เบอร์โทรศัพท์ และภาพถ่ายการคัดแยกขยะ (เศษอาหาร, ขยะรีไซเคิล, ขยะอันตราย, ขยะทั่วไป)
    • บ้านที่ลงทะเบียนจะได้รับถุงใส่ขยะเศษอาหารฟรีในปีแรก
    • ระบบจะสุ่มตรวจการคัดแยกขยะทุก 3 เดือน
    • การเก็บค่าธรรมเนียมใหม่จะเริ่มต้นหลังจากที่ข้อบัญญัติใหม่มีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2568
  2. ลงทะเบียนแบบกลุ่ม
    สำหรับหมู่บ้านจัดสรรที่มีนิติบุคคลหรือชุมชนที่มีขยะไม่เกิน 20 ลิตร/วันต่อหลังหรือห้อง โดยจะเริ่มการลงทะเบียนในวันที่ 1 สิงหาคม 2568
    • ต้องมีการประชุมจากนิติบุคคลเพื่อแจ้งรายละเอียดและวิธีการจัดการขยะที่คัดแยก 4 ประเภท
    • หลักฐานที่ต้องใช้ในการลงทะเบียนรวมถึงรายงานการประชุมและรหัสบ้าน (House ID)

ประเภทขยะที่ต้องแยก

  1. ขยะเศษอาหาร
    • ต้องแยกใส่ถุงสีเขียวและทิ้งในถังสีเขียว หรือส่งไปทำปุ๋ยหมัก, น้ำหมักชีวภาพ, หรืออาหารสัตว์
    • ขยะเศษอาหารจะมีการเก็บตามรอบที่สำนักงานเขตกำหนด
  2. ขยะรีไซเคิล
    • ขวดพลาสติก, ขวดแก้ว, กระดาษ, กระป๋อง ฯลฯ สามารถแยกทิ้งได้ในจุดทิ้งขยะรีไซเคิลตามชุมชนหรือฝากไปกับรถขยะของ กทม. ที่วิ่งตามเส้นทาง
  3. ขยะอันตราย
    • เช่น ถ่านไฟฉาย, หลอดไฟ, กระป๋องแก๊ส ควรทิ้งในถังสีส้ม หรือในกิจกรรมจัดเก็บขยะอันตรายในชุมชน
  4. ขยะทั่วไป
    • เช่น ซองขนม, ถุงพลาสติก, แก้วกาแฟ, กล่องโฟม ทิ้งลงในถังขยะทั่วไป (สีฟ้า)

ประโยชน์ของการแยกขยะ

  • ช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปกำจัด ลดภาระในการจัดการขยะของกรุงเทพมหานคร
  • ลดค่าธรรมเนียมการจัดการขยะให้กับประชาชนที่แยกขยะอย่างถูกต้อง
  • สนับสนุนการรีไซเคิลและการใช้ประโยชน์จากขยะเพื่อสร้างสิ่งใหม่ เช่น ปุ๋ยหมัก หรือพลังงาน
  • สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีและยั่งยืน โดยการทำให้ทุกคนตระหนักถึงการแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง

กิจกรรมและเครือข่ายรีไซเคิล

กรุงเทพมหานครยังมีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการแยกขยะ เช่น ตลาดนัดรีไซเคิลในชุมชน และการร่วมมือกับแอปพลิเคชันรับซื้อขยะหรือรับบริจาคขยะถึงบ้าน รวมถึงกิจกรรมเก็บขยะชิ้นใหญ่ในทุกวันอาทิตย์ เพื่อให้ชุมชนและประชาชนสามารถร่วมมือกันลดปริมาณขยะในเมือง

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน BKK Waste Pay

ร่วมแยกขยะ ลดขยะ ลดค่าธรรมเนียม และช่วยกรุงเทพฯ สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน!

คุณชอบเนื้อหาหน้านี้ไหม?
ชอบไม่ชอบ