ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 เป็นต้นมา มูลนิธิความยุติธรรมเชิงสิ่งแวดล้อม (Environmental Justice Foundation; EJF) ได้ทำงานเพื่อยุติปัญหามลพิษพลาสติก และเพื่อทะเลที่สะอาดและยั่งยืน Bottle Free Seas (BFS) จึงถือกำเนิดขึ้นภายใต้จุดมุ่งหมายนี้ และภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี โครงการฯ สามารถลดการใช้ขวดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวไปมากกว่า 1 ล้านขวด!

โครงการ Bottle Free Seas ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยในเมืองกรุงเทพฯ โดยเฉพาะ การสำรวจของ EJF พบว่า ชาวกรุงเทพฯ​ ยินดีใช้บริการตู้เติมน้ำหากสามารถเข้าถึงตู้เหล่านี้ได้ นี่จึงเป็นที่มาของการตระเวนติดตั้งตู้เติมน้ำสาธารณะตามจุดต่าง ๆ ทั่วกรุง โดยร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และเครือข่ายกรุงเทพฯ ​รีฟิล (Refill Bangkok)​ เพื่อสร้างทางเลือกในการบริโภคน้ำดื่มที่สะอาด ปลอดภัย ง่ายต่อการเข้าถึง และยั่งยืน ให้กับผู้อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ​

ในปัจจุบัน โครงการ Bottle Free Seas ติดตั้งจุดเติมน้ำไปแล้วทั้งหมด 10 จุด โดยมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวคือการลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว

ด้วยการเพิ่มการเข้าถึงน้ำดื่มสะอาดในจุดที่มีการสัญจรอย่างคับคั่งของชาวกรุงเทพฯ เช่น ตามสวนสาธารณะต่าง ๆ โครงการ Bottle Free Seas ก็ได้สนับสนุนให้ชาวกรุงเทพฯ​ หันมาใช้ขวดของตนเองเมื่อเข้าใช้บริการที่สาธารณะเหล่านี้ เป็นการช่วยลดขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวได้ก่อนขวดเหล่านั้นที่จะลงเอยในกองขยะที่โดยเฉลี่ยแล้วมีน้ำหนักมากกว่า 1,500 ถึง 1,800 ตันต่อวัน

ผลสำรวจของ EJF พบว่า ตู้กดน้ำของโครงการ Bottle Free Seas ช่วยลดการใช้ขวดพลาสติกไปได้ถึง 100,000 ขวดต่อเดือน และนอกจากนี้ ข้อมูลของ EJF ยังชี้ว่า ตู้กดน้ำเหล่านี้ช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อขวดน้ำพลาสติกไปได้ไม่ต่ำกว่า 7,205,681 บาท ผ่านการเสนอทางเลือกให้ผู้บริโภคได้สลับบทบาทมาเป็นผู้ใช้บริการตู้กดน้ำ หมายความว่า โครงการนี้ก็ช่วยขจัดขวดพลาสติกไม่ให้ไหลลงสู่ทะเล และช่วยผู้ใช้ไม่ให้เงินไหลออกนอกกระเป๋าไปพร้อมกัน

ในอนาคต กทม. และเครือข่ายกรุงเทพฯ​ รีฟิลมุ่งมั่นติดตั้งตู้กดน้ำเพิ่มขึ้นอีก 2,000 จุดภายในปี พ.ศ. 2568 และมุ่งหวังจะติดตั้งให้ได้ถึง 5,000 จุด (หรือเท่ากับ 100 จุดต่อเขต) ในปี พ.ศ. 2569

EJF ระบุว่า ความสำเร็จของโครงการ Bottle Free Seas เป็นสิ่งย้ำเตือนว่า วิกฤตพลาสติกมีทางออกที่เรียบง่าย เข้าถึงได้ และพร้อมได้รับแรงสนับสนุนจากสาธารณะรออยู่ นอกจากนี้ยังชี้ว่า ท้ายที่สุดแล้วการยุติมลพิษพลาสติกต้องเริ่มจากการลดปริมาณการผลิตพลาสติกเป็นอันดับแรก และข้อเสนอนี้ต้องได้รับการยอมรับในการประชุมคณะกรรมการการเจรจาระหว่างรัฐบาลครั้งที่ 5 (Intergovernmental Negotiating Committee; INC-5) ว่าด้วยสนธิสัญญาพลาสติกโลก (Global Plastic Treaty) ​ในเดือนพฤศจิกายนนี้

สตีฟ เทรนท์ ผู้อำนวยการและผู้ก่อตั้ง EJF กล่าวว่า “ปัจจุบันเราพบพลาสติกทุกตารางนิ้วบนโลก ตั้งแต่ยอดเขาสูงไปจนถึงท้องสมุทร หรือแม้กระทั่งในร่างกายเราเอง สิ่งที่มักถูกเข้าใจผิดก็คือ เราจำเป็นต้องลงทุนกับเทคโนโลยีราคาสูงหรือแสวงหาทางเลือกอื่นอย่างวัสดุธรรมชาติที่ย่อยสลายเองได้เพื่อยุติปัญหานี้ แต่ในความเป็นจริง สิ่งที่เราต้องการคือการหลีกเลี่ยงการพึ่งพาพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวที่สิ้นเปลืองและกลาดเกลื่อนต่างหาก ระบบของการใช้ซ้ำและการเติมควรได้รับความสำคัญเป็นลำดับแรก ในฐานะวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการยุติมลพิษพลาสติกและทำความสะอาดโลกของเรา”

“ในการประชุมเจรจาครั้งที่ 5 (INC-5) ณ เมืองปูซานที่จะถึงนี้ รวมไปถึงครั้งต่อ ๆ ไป เราจะเรียกร้องให้​มีการลดการผลิตพลาสติก สร้างมาตรฐานการใช้ซ้ำที่ปลอดภัย เสนอร่างกรอบกฎหมายที่รองรับระบบใช้ซ้ำเหล่านี้ และผลักดันให้เกิดสนธิสัญญาพลาสติกที่จะรับรองการใช้ซ้ำให้เป็นส่วนสำคัญของการแก้ปัญหา”

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ​กล่าวว่า “ขอบคุณ EJF ที่ทำงานเพื่อชาวกรุงเทพฯ​ ในกรุงเทพฯ เราสร้างขยะพลาสติกมากถึง 1,500 ถึง 1,800 ตันต่อวัน ส่วนมากก็มาจากขวดน้ำที่เราใช้ดื่ม การตั้งจุดเติมน้ำที่ประชาชนสามารถเติมน้ำด้วยขวดพกพาของตนเองก็จะช่วยแก้ปัญหาไปได้มาก”

“ในขั้นต่อไป กทม.ตั้งเป้าขยายจุดเติมน้ำให้ทั่วกรุงเทพฯ โดยปีงบประมาณ 68 นี้ จะมีเพิ่ม 200 จุด ตามหน่วยงานกทม. เช่น สำนักงานเขต ศูนย์อนามัย สนามกีฬา และยังตั้งเป้าส่งเสริมภาคเอกชนให้ติดตั้งเป็น 2,500 จุด เรามาร่วมมือกันลดขยะพลาสติกด้วยการพกขวดมากดน้ำดื่มกัน”

หมายเหตุบรรณาธิการ

โครงการ Bottle Free Seas เป็นความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) และเครือข่ายกรุงเทพฯ รีฟิล (Refill Bangkok) โดยได้รับทุนสนับสนุนจาก Norwegian Retailers’ Environment Fund (NREF)

EJF ทำงานทั่วโลกเพื่อให้ข้อมูลเชิงนโยบายและผลักดันการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนและเป็นระบบ เพื่อเป้าหมายในการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เราทำงานเชิงสืบสวนเพื่อเปิดเผยการแสวงประโยชน์และสนับสนุนนักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อม ชุมชนพื้นเมือง ชุมชนท้องถิ่นและผู้สื่อข่าวอิสระผู้เป็นแนวหน้าในการต่อสู้เพื่อควายุติธรรมเชิงสิ่งแวดล้อม แคมเปญของเรามีเป้าหมายเพื่อการสร้างอนาคตที่สงบสุข เท่าเทียม และยั่งยืน

เจ้าหน้าที่สืบสวน นักวิจัย ฝ่ายผลิตภาพยนตร์ และเจ้าหน้าที่รณรงค์ของเราทำงานร่วมกับภาคีท้องถิ่นและนักกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลก ภารกิจของเราในการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมเชิงสิ่งแวดล้อมมุ่งมั่นที่จะปกป้องสภาพภูมิอากาศ มหาสมุทร ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าของโลก และสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ media@ejfoundation.org

คุณชอบเนื้อหาหน้านี้ไหม?
ชอบไม่ชอบ