Skip to content

การเลือกอุปกรณ์

และผู้รับเหมา

การเลือกอุปกรณ์
และผู้รับเหมา

ส่วนประกอบของระบบโซลาร์เซลล์แบบออนกริด

ตัวยึดแผง

ตัวจับยึดเป็นส่วนที่ยึดแผงโซลาร์ให้ติดกันอยู่บนหลังคา โดยตัวจับยึดนั้นมีอยู่หลายส่วนย่อย ๆ โดยมีชิ้นสำคัญ ได้แก่ ขายึดหลังคา ราง มิดแคลมป์ เอ็นด์แคลมป์ กราวน์ดิงลัก และคลิปเก็บสายไฟ

ขายึดหลังคา

ขายึดหลังคามีหลากหลายชนิด ขึ้นอยู่กับว่าติดตั้งอยู่บนหลังคาแบบใด ตัวอย่างเช่น หากต้องการติดตั้งระบบโซลาร์บนกระเบื้องลอนคู่ หรือเมทัลชีทจะใช้ L-Feet ซึ่งมักจะมาพร้อมกับแผ่นยางกันน้ำรั่วซึม

ราง

รางเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่พาดกับขายึดหลังคาเป็นแนวยาว เป็นโครงสร้างรองรับแผงโซลาร์ รางแต่ละแบบอาจมีความหนาต่างกันเล็กน้อย ระบบมาตรฐานมักใช้รางหนา 4.2 มม. ขึ้นไปเพื่อให้เพียงพอต่อการรับน้ำหนักของแผง และแรงลมจากมรสุม 

ตัวยึดแผง (Mid and End Clamp)

ตัวยึดแผง ใช้ในการยึดแผงไว้กับราง โดยในหนึ่งแผงจะมีจุดยึด 4 จุด หากแผงอยู่ด้าน
นอกสุด ขอบด้านนอกจะใช้ตัวยึดริมแผงหรือ End Clamp แต่สำหรับจุดที่ขอบ
แผงชนกัน จะใช้ตัวยึดระหว่างแผง หรือ Mid Clamp

กราวน์ดิงลัก (Grounding Lug)

กราวน์ดิงลัก (Grounding Lug) เป็นอุปกรณ์สำหรับเชื่อมต่อโครง
อะลูมิเนียมของแผงและตัวจับยึดแผงเข้ากับวงจรของสายดินเพื่อล่อประจุส่วนเกิน
ลงดิน ลดความเสียหายจากไฟรั่ว ไฟเกิน และฟ้่าผ่าที่เกิดขึ้นในระบบโซลาร์ส่วนที่
อยู่บนหลังคาทั้งหมด

หากหลังคาเป็นดาดฟ้า หรือ Concrete slab (พื้นคอนกรีตเรียบ) ค่าใช้จ่ายสำหรับขาของระบบจับยึดจะแพงกว่าแบบอื่น เนื่องจากต้องทำการหล่อลูกปูนขึ้นมาเป็นฐาน แต่ข้อดีคือสามารถหันแผงเข้าทิศใต้ 15 องศาได้ ซึ่งเป็นทิศที่แดดส่องมากที่สุดตลอดปี พื้นมีความมั่นคงมาก และมั่นใจได้ว่าน้ำไม่ซึมหลังคา

 

แผงโซลาร์เซลล์

องค์ประกอบของแผงโซลาร์เซลล์

แผงโซลาร์ประกอบไปด้วยตัวเซลล์แสงอาทิตย์ (1) หลายเซลล์ที่ต่ออนุกรมกัน และถูกเคลือบป้องกันด้วยแผ่นกระจกใส โดยไฟทั้งหมดจะไหลผ่าน junction box (2) และออกมาเป็นขั้วบวก (3) และขั้วลบ (4)

เทคโนโลยีแผงโซลาร์

แผงโซลาร์มีอยู่หลายชนิด แต่ชนิดที่นิยมใช้ที่สุดในปัจจุบันคือ แผง Monocrystalline P-Type แบบ Half cut แต่อีกไม่นานอาจถูกแทนที่ด้วย N-Type เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ดีกว่า และราคาที่ลดลงเรื่อย ๆ

แผงโซลาร์ชนิด Monocrystalline P-Type

เป็นชนิดที่ได้รับความนิยมสูงสุด เทคโนโลยีโมโนคริสตาลีนมีประสิทธิภาพ ผลิตไฟได้ดี และ P-Type ปัจจุบันราคาไม่สูง

แผงโซลาร์ชนิด Monocrystalline N-Type

เทคโนโลยีที่ใหม่ มีประสิทธิภาพสูง และมีอัตราการเสื่อมสภาพที่ต่ำกว่า ราคาเกือบเทียบเท่า P-Type

แผงโซลาร์ ชนิด Polycrystalline

แผงโพลี่คริสตาลีนเป็นแผงโซลาร์รุ่นเก่า มีประสิทธิภาพต่ำกว่า เสื่อมสภาพไวกว่า แต่มีราคาเหมาะสำหรับกานทำเกษตรที่ต้องการต้นทุนต่ำ

 

แผงโซลาร์ ชนิด Amorphous thin-film

แผงอะมอร์ฟัส ไมมีการผลิตเพื่อใช้ในระบบโซลาร์แล้วเนื่องจากมีประสิทธิภาพ
ต่ำมาก แต่อาจพบการขายในตลาดมือสองได้

ระบบป้องกันด้านกระแสตรง

ก่อนจะป้อนไฟฟ้าเข้าไปยังอินเวอร์เตอร์ จำเป็นต้องมีระบบป้องกันคั่นกลาง นั่นก็คือ ระบบป้องกันด้านกระแสตรง ภายในมีอุปกรณ์ทำหน้าที่ตัดไฟเรียกว่า เบรคเกอร์กระแสตรง (1) อุปกรณ์ป้องกันไฟเกินเรียกว่าฟิวส์ (2) และอุปกรณ์ป้องกันกระแสไฟจากฟ้าผ่าหรือเสิร์จ โพรเท็กชั่น (3) (ส่วนประกอบนี้ไม่ใช่เครื่องป้องกันไฟดูด หากเผลอจับสายไฟหลังจากผ่าน DC Panel แล้ว เสี่ยงถูกไฟช็อตได้)

อินเวอร์เตอร์

เนื่องจากไฟฟ้าที่มาจากแผงโซลาร์เป็นไฟฟ้ากระแสตรง แต่อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านต้องรับไฟฟ้ากระแสสลับ ไฟฟ้าดังกล่าวจึงจำเป็นต้องผ่านอินเวอร์เตอร์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่มีราคาสูงที่สุดในระบบโซลาร์ ซึ่งนอกจากทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าจากกระแสตรงเป็นกระแสสลับแล้ว อินเวอร์เตอร์ยังมีหน้าที่สำคัญอีกหลายประการ

  1. เซนเซอร์ตรวจวัดปริมาณทางไฟฟ้า ทำหน้าที่ตรวจวัดปริมาณต่างๆ และแสดงผล
  2. สมองกลควบคุมคุณภาพไฟฟ้า ทำหน้าที่ปรับคุณภาพไฟฟ้าให้เหมาะสม
  3. ระบบควบคุมกันไฟไหลย้อน ทำหน้าที่คุมไม่ให้ไฟไหลย้อนไปที่การไฟฟ้า
  4. หน้าจอ และไฟ LED เป็นหน้าจอหรือไฟบอกค่าหรือสถานการณ์ทำงานของอินเวอร์เตอร์
  5. DC Input เป็นช่องสำหรับรับไฟฟ้ากระแสตรงจากระบบโซลาร์
  6. AC Output เป็นช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จากระบบเพื่อนำออกไปใช้งาน
  7. On-Off Switch ใช้เปิดและปิด โดยปกติสวิตช์จะอยู่ที่ Power on แม้ในตอนกลางคืน
  8. Communication Port เชื่อมต่อ Wifi และส่งค่าขึ้น App เพื่อดูบนมือถือ

ระบบป้องกันด้านกระแสสลับ

ระบบป้องกันด้านกระแสสลับเป็นระบบความปลอดภัย โดยมีหน้าที่หลัก 4 ประการ ดังนี้

  1. ตัดหรือต่อไฟ เมื่อต้องการจะซ่อมบำรุง หรือแก้ไขปัญหาภายใน
  2. ป้องกันไฟเกิน
  3. ป้องกันฟ้าผ่าและจำกัดความเสียหายจากฟ้าผ่า
  4. ป้องกันและเพิ่มโอกาสรอดชีวิตจากไฟดูด ไฟรั่วผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่า RCBO

AC Protection panel บางครั้งใช้ MCB แทน RCBO จึงอาจไม่สามารถป้องกันไฟดูดได้ แม้ว่าการติดตั้ง RCBO จะปลอดภัยกว่าเล็กน้อย แต่มีราคาสูงกว่า อีกทั้งยังมีโอกาสทำให้ระบบโซลาร์หยุดทำงานบ่อยครั้ง ทั้งที่ไม่ได้มีเหตุไฟรั่วเกิดขึ้น เพราะ RCBO ตรวจจับผิดพลาด

ตู้ไฟบ้าน

เป็นจุดที่ไฟฟ้าของระบบโซลาร์จะมาจ่ายให้ไฟบ้าน โดย Consumer unit นั้นคือตู้ไฟเดิมในบ้านที่เชื่อมต่อระบบโซลาร์กับช่องเบรคเกอร์ที่ยังว่างอยู่

แอปสำหรับดูการทำงาน

อินเวอร์เตอร์ส่วนใหญ่มาพร้อมกับแอปพลิเคชันเพื่อดูการทำงานและผลการผลิตไฟของระบบโซลาร์ได้เพียงเชื่อมต่ออินเวอร์เตอร์กับ Wi-Fi ของบ้าน หรือในบางกรณีใช้เป็นอุปกรณ์
เสริมโดยใส่ซิมอินเทอร์เน็ตในอินเวอร์เตอร์ก็ได้

electrical appliance

แม้เครื่องใช้ไฟฟ้าและการใช้ไฟฟ้าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของระบบโซลาร์ แต่ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีผลต่อการทำงานของระบบโซลาร์อย่างมาก หากไม่มีการใช้ไฟฟ้าในช่วงที่ระบบโซลาร์ผลิตไฟฟ้าได้ปริมาณมาก ย่อมเสียโอกาสในการประหยัดค่าไฟ ณ ช่วงเวลานั้นไป เว้นแต่ว่าจะมีการขายไฟให้การไฟฟ้า (ศึกษาเรื่องการขายไฟให้การไฟฟ้าได้ในส่วนใบอนุญาต)

จะเห็นว่า การใช้ไฟของแอร์มีปริมาณที่สูง และมักจะตรงกับการผลิตไฟจากระบบโซลาร์ เพราะกลางวันเป็นช่วงเวลาที่ร้อนและคนส่วนใหญ่เปิดแอร์ หากจะพิจารณาติดตั้งโซลาร์ ให้ตั้งคำถามง่ายๆ ว่าปกติกลางวันเปิดแอร์หรือไม่ ถ้าเปิดแอร์ต่อเนื่องในช่วงเวลากลางวันเป็นประจำ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ตอบโจทย์การใช้ไฟฟ้าและลดค่าไฟได้

เลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสม

การเลือกอุปกรณ์มีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของระบบโซลาร์เซลล์ ควรตรวจสอบคุณสมบัติดังนี้:

1. แผงโซลาร์เซลล์ (Solar Panel)

  • เลือกชนิด Monocrystalline หรือ Polycrystalline ตามงบประมาณและพื้นที่ติดตั้ง
  • ได้รับมาตรฐาน IEC 61215, IEC 61730
  • อายุการใช้งานเฉลี่ย 25–30 ปี

2. อินเวอร์เตอร์ (Inverter)

  • แปลงกระแสตรง (DC) เป็นกระแสสลับ (AC)
  • มีขนาดกำลังที่รองรับเท่ากับหรือมากกว่ากำลังของแผง
  • ควรได้รับมาตรฐาน IEC 62109 หรือ IEC 61683
  • หากเป็นระบบขายไฟ ต้องใช้ Grid-tied inverter ที่ผ่านการรับรองจาก MEA/PEA

3. โครงสร้างยึดแผง

  • ต้องออกแบบให้รับน้ำหนักและแรงลมได้ปลอดภัย
  • ใช้วัสดุกันสนิม เช่น สแตนเลสหรืออลูมิเนียม

4. สายไฟและอุปกรณ์ประกอบ

  • สายไฟต้องทน UV และความร้อน เช่น PV Cable
  • มีระบบป้องกันไฟย้อน (DC Isolator, Surge protector)
  • ควรมี มิเตอร์ไฟฟ้าแยก สำหรับตรวจวัดกำลังผลิต

เลือกผู้รับเหมาที่น่าเชื่อถือ

การเลือกผู้รับเหมาติดตั้งระบบโซลาร์ควรพิจารณาจากคุณสมบัติต่อไปนี้

  1. มีผลงานติดตั้งที่ตรวจสอบได้
    • ควรขอดูตัวอย่างผลงานที่ผ่านมา
    • ตรวจสอบความเรียบร้อยของงานติดตั้งจริง
  2. มีวิศวกรไฟฟ้าและวิศวกรโยธารับรอง
    • โดยเฉพาะงานที่ต้องยื่นขออนุญาตดัดแปลงอาคาร หรือขนานไฟ
    • ควรมีการออกแบบและตรวจแบบโดย วิศวกรสามัญ 
หรือ ภาคีวิศวกร
  3. ให้บริการครบวงจร
    • สำรวจหน้างาน ออกแบบ ติดตั้ง ยื่นขอขนานไฟให้ครบ
    • มีเอกสารการรับประกัน (แผง อินเวอร์เตอร์ และงานติดตั้ง)
  4. มีการรับประกันผลงาน
    • อย่างน้อย 5 ปี สำหรับงานติดตั้ง
    • 10 ปี สำหรับแผง และ 5 ปี สำหรับอินเวอร์เตอร์ (แล้วแต่ผู้ผลิต)
  5. มีการอบรมหรือขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
    • เช่น กฟน./กฟภ., กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและ
    • อนุรักษ์พลังงาน (พพ.) หรือสมาคมพลังงานแสงอาทิตย์

คำแนะนำก่อนตัดสินใจ

  • อย่าเลือกเฉพาะผู้เสนอราคาต่ำสุด ควรพิจารณาคุณภาพและบริการหลังการขายร่วมด้วย
  • อ่านสัญญาให้ละเอียด โดยเฉพาะเรื่องรับประกัน การซ่อมแซม และการยื่นเอกสาร
  • ตรวจสอบว่าอุปกรณ์มี ใบรับรอง และสามารถออกแบบระบบเพื่อ ผ่านเกณฑ์ขอขนานไฟ

ดาวน์โหลดคู่มือติดตั้ง
สำหรับบ้านเรือนฉบับเต็ม

Download